ไข้หวัด 2009 fact from doctor‏ - ไข้หวัด 2009 fact from doctor‏ นิยาย ไข้หวัด 2009 fact from doctor‏ : Dek-D.com - Writer

    ไข้หวัด 2009 fact from doctor‏

    ก็ได้รับ forward อีกเช่นเคย ขอโทษนะคะ ที่เพิ่งเอามาลง เพิ่งว่างค่ะ ^^

    ผู้เข้าชมรวม

    287

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    287

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  3 ก.ย. 52 / 17:25 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    นิยายแฟร์ 2024
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ถึงสื่อมวลชนทุกท่านผมจะบอกความจริงเรื่อง ไข้หวัด 2009  ให้ทราบ

      พวกคุณงง
      และสับสนกับเจ้าหน้าที่และหมอหลายคนที่ให้ข่าวไม่ค่อยตรงกันใช่มั้ยครับ?
      ผมจะบอกข้อมูลอะไรให้ฟัง
       ซื่งคุณสามารถตรวจสอบได้เอง จากแพทย์ผู้เชื่ยวชาญด้าน ไวรัสวิทยา หรือจุลชีววิทยา ตามภาควิชาจุลชีววิทยาคณะแพทย์มหาลัยใหญ่ๆนะครับ
      (
      กรุณาเลิกสัมภาษณ์นักการเมืองได้แล้วไม่มีอะไรคืบหน้าเลย ควรสัมภาษณ์อาจารย์ที่เขารู้จริงทำงานเรื่องนี้จริงๆดีกว่า)
      Mexicoนำหน้าเราอยู่ประมาณ 1-2 เดือน ตอนนี้น่าจะกำลังปีนเขาลูกที่ 2 อยู่
      ตอนนี้การระบาดในบ้านเราน่าจะอยู่แถวๆดอยของเขาลูกที่
      1 แล้วที่เราว่าเป็นกันเยอะ ปิดโรงเรียนกันมากมาย ป่วยกันทั้งหมู่บ้านมันจะกลายเป็นเด็กๆไปเลย เมื่อของจริงมา อีกไม่นานเกินรอ
      ถามตอบยอดฮิต เกี่ยวกับหวัด 2009

      1.
      โรคนี้ไม่รุนแรง ไม่น่ากลัวอย่าสะดิ้งไปนะตะเอง????


      Answer :  
      มะเหงกแน่ะ  ความจริงคือ

      1.
      ไข้หวัด 2009  ดูเหมือนไม่รุนแรง อัตราตายต่ำ  แต่แพร่ระบาดง่ายและรวดเร็ว (การแพร่กระจายสูง)
      2.  
      ความน่ากลัวของหวัด 2009 คือการกลายพันธุ์ต่างหากและการกลายพันธุ์จะเกิดง่ายที่สุด เมื่อคน 1 คน หรือสัตว์ 1 ตัว ทะลึ่งติดหวัด 2 ชนิดพร้อมกัน (เช่นหวัด 2009 + หวัด ธรรมดา พร้อมกัน  หรือ หวัด 2009 + หวัดนกพร้อมกัน)

      ขณะนี้"หวัดนกซึ่งรุนแรงและมีอัตราตายสูงมากกก ยังไม่ได้หายไป"

      และแนวโน้มของหวัดนก จะ"ระบาดซ้ำอีก ทุกๆปลายปี"

      แม้ว่าหวัด
      2009 มันไม่รุนแรง แต่ถ้าปล่อยให้แพร่แบบนี้"อีกไม่นานมันอาจผสมกัน"

      .........
      เอาความสามารถในการแพร่กระจายของหวัด 2009 บวกกับความรุนแรงของหวัดนก  เมื่อนั้นก็หายนะ  !!!!!

      และนั่นคือสาเหตุ
      ที่อยากให้คนไทยทุกคนดูแลสุขภาพให้ดี อย่าให้เป็นหวัดอย่าให้โรคนี้แพร่กระจายไปกว่านี้

      ถ้าเป็นหวัดแล้ว แยกตัวจากคนอื่นทันทีอย่าแรดเดินตลาด อย่าแรดไปห้างหรือที่ชุมชน
       และใส่หน้ากากทันทีอย่าให้แพร่เชื้อสู่คนและสัตว์รอบข้างถึงแม้จะอยู่บ้านที่มีสมาชิกแค่ 2 คนก็ตาม

       
      2. ถ้าเป็นขึ้นมา ไปหาหมอเดี๋ยวก็หาย???

      Answer :  
      แม่เจ้าพศ.นี้ยังเข้าใจกันแบบนี้อีกเหรอนี่??

      คุณรู้มั้ยว่า
      เวลาคุณไปหาหมอเพราะเป็นหวัด  หมอจะจ่ายยาลดไข้ ยาลดน้ำมูก ยาแก้ไอ ให้คุณแต่ไม่มียาฆ่าเชื้อหวัด!!!
      นอกจากคุณติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำเติม เช่นทอนซิลอักเสบ คออักเสบ  หมอจึงจะจ่ายยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ติดซ้ำเติมให้  
      แต่ก็ยังไม่มียาฆ่าเชื้อไวรัสหวัดให้อยู่ดี!!
      เพราะอะไรน่ะเหรอ  
      เพราะยาฆ่าไวรัส มันแพงมาก และไม่คุ้มที่จะแจกจ่ายพร่ำเพรื่อเพราะจะทำให้ไวรัสยิ่งกลายพันธุ์ดื้อยาขึ้นไปอีก
      99.99%
      ของคลินิก และโรงพยาบาลขนาดเล็ก จึงไม่มียารักษาการติดเชื้อไวรัสหวัดไว้ในสต็อกยาเลยครับ

      สิ่งที่ดีที่สุดในการรักษาไข้หวัด  คือการกินยาลดไข้
      ยาลดน้ำมูก ยาแก้ไอ ตามอาการ แล้วนอนพักผ่อนมากๆ  พยายามอย่าไปแพร่เชื้อใส่ใครเดี๋ยวก็หายครับ

      ส่วน
      Tamiflu น่ะ อย่าไปหวังอะไรกับมันมากเลยครับเพราะ
      -
      ตอนนี้ยาขาดตลาดสุดๆ  รพ. หลายแห่ง หายานี้มา Stock ไว้ไม่ได้
      -
      ยานี้จะออกฤทธิ์ได้ดี เมื่อคนไข้ถูกตรวจพบเจอก่อนเกิดอาการแล้วคนไข้คนไหนจะกระแดะเดินไปหาหมอตอนไม่มีอาการล่ะครับ  ( ถึงกระแดะไปหาหมอก็ไม่กระแดตรวจ Swab ให้หรอก  หรือ ถึงหมอกระแดะตรวจให้คุณจะกระแดะจ่ายค่าตรวจราคา4000+ บาท มั้ยล่ะครับ?)
      -
      ตอนนี้เริ่มมีรายงานเชื้อดื้อยา Tamiflu แล้วครับ  (บอกแล้ว ว่าไวรัสมันกลายพันธุ์ เร็วค่อดๆ)
      3. ฉีดวัคซีนป้องกันได้???

      Answer :  
      วัคซีนที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้คือวัคซีนป้องกัน ไข้หวัดใหญ่สเปนครับ
      เป็น H1N1 เหมือนกัน  แต่เป็นเชื้อคนละตัว  (เหมือนตระกูลงวงคำเหมา เหมือนกัน แต่ หม่ำกับ ตุ๊กกี้เป็นคนละคนกันมีสิ่งที่ชอบที่กลัวไม่เหมือนกัน) พูดง่ายๆ คือ ในทางทฤษฎี วัคซีนนี้ไม่น่าจะป้องกันหวัด 2009 ได้เลย  แต่ให้ฉีดไว้ก่อนเพราะ

      -
      ตอนแรกนักวิทย์คำนวณไว้อยู่แล้วว่า ปีนี้ ไข้หวัดสเปนต้องระบาด (ใครจะนึกว่ามันทะลึ่งกลายพันธุ์เป็น 2009 )  อย่างน้อยการฉีดนี้เป็นการตัดไข้หวัดสเปนออกไปก่อน พูดง่ายๆ คือ ถ้าใครเดินมา รพ.เราจะได้สงสัยไปเลยว่าเป็น หวัด 2009 ไม่ใช่หวัดสเปนจะได้ง่ายต่อการควบคุมรักษา

      -
      ถ้าเกิดไข้หวัดสเปน เกิดบ้าจี้ระบาดขึ้นมาพร้อมกันตอนนี้ อัตราตายมันสูงกว่า หวัด 2009 มากนะครับ

      -
      แม้ทางทฤษฎี วัคซีนนี้จะกัน 2009 ไม่ได้เลย  แต่ไหนๆมันก็เชื้อตระกูลเดียวกันและเป็นเชื้อใหม่ด้วย  ใครจะไปรู้ว่ามันอาจป้องกันหวัด 2009 ได้ซัก 1% ก็ได้มีตังค์ก็ฉีดๆ ไปเหอะ Better Than Nothing  แต่ต้องรู้นะ ว่า  การฉีดวัคซีนนี้ไม่ได้แปลว่า คุณไม่ต้องกลัวแล้ว ไม่ได้แปลว่าคุณมีภูมิคุ้มกันต่อหวัด 2009 แล้วมันแค่ลดความเสี่ยงไปซักถึง 1%  รึเปล่ายังไม่รู้เลย??
      4. แล้วอะไร คือสิ่งที่ควรทำตอนนี้???

      Answer :



      4.1
      ระดับส่วนตัวและครอบครัว

      ในภาวะปกติ


       
      ตอนนี้ต้องยอมรับว่าทุกแหล่งชุมชนคือจุดเสี่ยงในการแพร่ระบาด โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นห้องแอร์ระบบปิด  เช่นในห้างสรรพสินค้า โรงหนัง บนรถไฟฟ้า รถไฟใต้ดินถ้าจะเดินเข้าแหล่งชุมชนเหล่านี้ควรใส่หน้ากากป้องกันตัวเองได้แล้วครับ!!!!!


      ถ้าคุณมีอาการของโรคหวัด
      แค่ ไอ จามเล็กๆน้อยๆ

         
      ควรแยกตัวจากครอบครัวและสังคมเท่าที่ทำได้เช่นแยกห้องนอนจากคนอื่น  ถ้าต้องอยู่ร่วมกันก็ใส่หน้ากากตลอดเวลา (หาซื้อไม่ได้ก็เอาผ้าเช็ดหน้ามาผูกไว้ก็ยังดีกว่าหายใจรดกันตรงๆ)  

      ปิดปากปิดจมูกเสมอ
      อย่าหายใจรดใคร อย่าไอจามใส่ที่สาธารณะเลิกถ่มน้ำลายลงพื้นได้แล้ว

      ล้างมือให้บ่อยที่สุด
      การเอามือไปป้ายโน่นป้ายนี่เป็นช่องทางการแพร่เชื้อที่ดีเยี่ยม

      ตอนเช้าตื่นนอน กรุณาเปิดหน้าต่างกว้างๆ  เปิดพัดลมไล่อากาศออกซักนิด
      ก่อนจะให้ใครคนอื่นเดินเข้ามาในห้องเรา เสื้อผ้า ผ้าปูเตียง ปลอกหมอนหมั่นซักบ่อยๆ ( ไม่รู้มีคราบเสมหะ ตอนเราไอจามติดอยู่รึเปล่า )ล้างมือให้บ่อยที่สุด แต่ไม่ต้องถึงกับแยกห้องน้ำหรอกนะแค่เอาแปรงสีฟันเราออกมาเก็บเอง อย่าใส่ถ้วยเดียวกะคนอื่นก็พอ
      อาการอย่างไรจึงควรไปตรวจที่รพ.?

      1.
      มีไข้ 38C ขึ้นไปร่วมกับ
      2.
      อาการอย่างใดอย่างหนึ่งได้แก่ ปวดกล้ามเนื้อ, ไอ, หายใจผิด ปกติ (หอบ, ลำบาก), หรือแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นปอดบวม ร่วมกับมีผู้สัมผัสร่วมบ้านหรือในที่ทำงานป่วยสงสัยไข้หวัดใหญ่หรือปอดอักเสบ ภายใน 1 สัปดาห์ก่อนวันเริ่มป่วย

      ถ้าอาการแค่เป็นหวัดเจ็บคอธรรมดา ไข้ไม่สูงไม่นอนซม  ไม่ต้องสะดิ้งวิ่งไปรับเชื้อที่รพ.นะครับ อย่าลืมว่าตอนนี้  รพ.นั่นแหละเป็นแหล่งแพร่เชื้อที่ดีที่สุด.................


       4.2 ระดับนโยบายของรัฐ และ สื่อมวลชน

      มาดูกันนิดนึง
      ว่าทำไมประเทศเราถึงควบคุมการระบาดไม่ได้เลย ขณะที่ประเทศต้นตำรับการระบาดอย่างMexicoซึ่งไม่ได้เจริญกว่าบ้านเราเลยเขาถึงควบคุมการระบาดระลอกแรกได้....

      จำข่าวได้มั้ยครับ ว่าตอนแรกที่
      Mexicoเขาระบาดเขาทำอะไรบ้าง ??
      ปิดเลยครับ !!!
       เขากล้าพอที่จะปิด โรงเรียนทุกแห่งโรงหนังทุกแห่ง  ห้างสรรพสินค้าทุกแห่ง ทั่วประเทศ พร้อมกัน 1 สัปดาห์ พร้อมทั้งพ่นยาฆ่าเชื้อ ตามโรงหนัง ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆด้วย
      นั่นคือสาเหตุที่เขาควบคุมการระบาดระลอกแรกได้ทันทีในสัปดาห์ต่อมา....


      แล้วพี่ไทยล่ะทำอะไรบ้าง
      ?? นอกจากออกข่าว ว่า ไม่มีอะไร้  ไม่น่ากลัว แต่คนติดเชื้อเพิ่มเป็นหลักร้อยหลักพันทุกวัน???
      มัวแต่กลัวว่าเศรษฐกิจจะทรุด การท่องเที่ยวจะกระทบ  
      ...
      คิดกันบ้างมั้ยว่า ถ้าคนไทย ตัยหอง กันหมด
      จะมีเศรษฐกิจดีๆไว้ทำอารายจ๊ะ??
      เศรษฐกิจ คือ สิ่งที่เราสร้างได้แน่นอนถ้าคนไทยยังมีลมหายใจอยู่คับ (ว้อยยยยยย )


       และคุณสื่อมวลชนครับ ... ผมว่าถึงเวลาแล้วที่พวกคุณจะต้องพูดความจริง.....
      ถ้าจำไม่ได้ว่าผมพล่ามอะไร ให้พูดดังนี้นะครับ

      1.
      โรคนี้ อันตรายครับ ....และยังกลายพันธุ์ให้อันตรายกว่านี้ได้อีกในปลายปีนี้ครับ
      2.
      โรคนี้หวังพึ่งยารักษา ไม่ได้ครับ และตอนนี้เริ่มดื้อยาแล้วด้วยครับ
      3.
      โรคนี้ต้องป้องกันอย่างเดียวครับ
      4.
      จะควบคุมการระบาดได้ ต้องพร้อมใจกันใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ พร้อมกันทั้งสังคมครับ
      5.
      จะควบคุมการระบาดได้ปิดโรงเรียน โรงหนัง  ศูนย์การค้าใหญ่ๆ ได้แล้วครับ ขอแค่ 3 วันก็ยังดีครับ!!!!!

       
      ของแถม  (ส่วนนี้ถ้าอ่านไม่รู้เรื่อง ก็ช่างเถอะนะ)
      ขออธิบายเรื่องการกลายพันธุ์
      ของไวรัสล้วนๆจะได้รู้ว่าทำไมผมถึงคิดว่าเราควรตื่นตัว

      อธิบายความรู้พื้นฐานเพื่อให้เข้าใจก่อน


      HOST =
      เหยื่อ ที่ไวรัสเข้าไปฝังตัว ( มนุษย์ หรือ หมู / นก สัตว์ต่างๆที่มันเข้าไปสิง)
      HOST cell =
      เซลล์ ของเหยื่อ ที่ไวรัสเข้าไปฝังตัว ( เซลล์ มนุษย์ หรือ สัตว์) 


      +++
      ปฏิบัติการเมื่อไวรัสเข้าไปใน HOST  Cell+++  

      ไวรัสเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ครบองค์ประกอบของการเป็นเซลล์
      มันจึงไม่สามารถแพร่พันธุ์ด้วยตัวเองได้ แต่จะแพร่พันธุ์โดยการฝังตัวเข้าไปใน HOST cell

      ดูรูปประกอบ
       พื้นที่ สีชมพูทั้งหมด คือ HOST cell
      รูปหกเหลี่ยมสีเหลือง คือไวรัส

      หมายเลข
      1-2 คือ ไวรัส สัมผัสผิวเซลล์แล้วจะละลายตัวเองเข้ากับผนังเซลล์ บุกเข้ามาภายใน Host Cell
      หมายเลข
      3    เมื่อเข้ามาแล้ว ไวรัสจะสลายเปลือกตัวเอง เหลือแต่ RNA คือเกลียวสีแดงในรูป
      หมายเลข
      4a   RNA คือสารพันธุกรรมของไวรัส ที่จะหลอกล่อ RNA ของHost ( เกลียวสีน้ำเงิน) ให้มาประกบตัว เพื่อสร้างไวรัสตัวใหม่ออกมามากมาย  (ปกติ RNA ของมนุษย์ มีไว้สร้าง โปรตีน และสารจำเป็นอื่นๆต่อร่างกายและแน่นอนมันเป็นสารที่มีรหัสพันธุกรรมมนุษย์อยู่ด้วย)
      ในรูป
       
      4b  
      คือ RNA ไวรัส หลอก RNA มนุษย์  ให้สร้างเปลือกใหม่ให้มันแทนอันที่มันสลายทิ้งไปตอนแรก
      4c  
      คือ RNA ไวรัส หลอก RNA มนุษย์ ให้สร้าง RNA ไวรัสใหม่ (ที่ปะปนกับ RNA มนุษย์ เรียบร้อยแล้วจะกลายพันธ์ได้ช่วงที่หนึ่งก็ตอนนี้แหละ)

      หมายเลข
      5-6  ประกอบร่างกันใหม่อีกครั้ง ได้เป็นไวรัสลูก (ที่ขโมย RNA ของ Host  มาผสมเรียบร้อย) จำนวนนับหมื่นนับแสน เข้าละลายผนังเซลล์ ของ Host แล้วบุกออกจากตัว Host ออกสู่โลกภายนอกอีกครั้ง.......ระบาดดดนั่นเอง.....


      ไวรัสกลายพันธ์อย่างไร

      1. Mutation =
      การผ่าเหล่าของพันธุกรรม  : วิธีนี้ช้า  ในมนุษย์ ใช้เวลาหลายร้อยชั่วคนแต่ในไวรัส ไม่กี่รุ่นก็ทำได้ (จำคำอธิบายข้างต้นว่า เพียงพ่อเดียว( host ที่ไวรัสไปฝังตัว--> ไวรัสก็ออกลูกได้เป็นหมื่น  จึงไม่ต้องรอหลายรุ่นอย่างมนุษย์) และแน่นอน ไม่ต้องรอนับพันปีอย่างมนุษย์ไวรัสใช้เวลาเป็นวัน หรือ ชั่วโมงเท่านั้น
      2. Genetic Recombination
      เป็นวิธีที่เร็วอย่างน่ากลัวเข้าไปอีกอธิบายดังนี้.....

      โปรดดูรูปประกอบอีกครั้ง  เกลียวสีแดงๆนั้นแทน
      RNA  ซึ่งล่องลอยไปมาในเซล
      คราวนี้ลองนึกภาพว่า ถ้ามีไวรัสไข้หวัดใหญ่
      2 ชนิดขึ้นไปบุกเข้าไปในเซล์Host พร้อมกัน  ไวรัสนั้นจะสลายเกราะ ปล่อย RNA ของมันออกมาล่องลอยในเซลล์ก่อนจะประกอบร่างตัวเองขึ้นมาใหม่เป็นไวรัสลูกหลานออกนอกเซลล์ไอ้ตอนนี้แหละท่านผู้ชม...  มันก็ลากเอา RNA อะไรก็ได้มาประกอบร่าง (ทั้งของไวรัสอีกตัวนึง กับของ Host )  ผสมกันออกจากเซลล์ กลายเป็นไวรัสพันธุ์ใหม่เสร็จสรรพ.....


      นี่คือที่มาว่า ไวรัสไข้หวัดใหญ่
      H1N1 ธรรมด๊าธรรมดา กลายมาเป็นไข้หวัดหมู เม็กซิโก 2009 ได้ยังไง
      สรุปง่ายๆคือ
      Host ( คนหรือสัตว์) เกิดแจ็คพ็อตติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2 ชนิดขึ้นไปในคราวเดียวกันไวรัสก็จะไปผสมพันธุ์กันในร่างเหยื่อคนนั้น ก่อให้เกิดไวรัสพันธ์ใหม่พร้อมกันทีเดียวหลายพันหลายหมื่นเผ่าพันธ์  แต่แน่นอน การผสมมั่วซั่วเหล่านี้ไวรัสพันธ์ใหม่ที่ได้ส่วนใหญ่ จะอยู่ไม่รอดในธรรมชาติแต่มันหลุดมาเป็นหมื่นชนิดมีหรือจะไม่มีชนิดนึงเล็ดรอด ใช่แล้วและตัวที่รอดออกมาก็คือ ไข้หวัดใหญ่ เม็กซิโก 2009  SWINE FLU ”        

      ดูแล้วพอจินตนาการได้มั้ยครับ ว่าถ้ามันจะกลายพันธุ์ต่อก็ใช้วิธีเดียวกันได้ไม่ยากเลย!!!!!!




      The bad news: the flu vaccine will not protect you.

      ข่าวร้าย
      วัคซีนไข้หวัดแบบปัจจุบันยังป้องกันอะไรไม่ได้

      The good news: antiviral drugs (Tamiflu and Relenza) will work.

      ข่าวดี
       :  เค้าว่า ยา Tamiflu ช่วยได้

      The bad news: antiviral drugs are not very effective after symptoms start, which is why they are not commonly used in medical practice.

      ข่าวร้าย :
       ยาพวกนั้น จะใช้ไม่ค่อยได้ผล เมื่อเริ่มมีอาการแล้วววว นั่นคือสาเหตุที่หมอเองยังไม่ค่อยมีโอกาสสั่งยาพวกนี้เลย  (ใครมันจะไปหาหมอกินยาก่อนมีอาการฟะ????)

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×